24 มกราคม 2552



ฟ้องแล้วมือยิงคนสหวิริยา















บรรยายภาพ : นายบำรุง สุดสวาท จำเลยคดียิงคนงานสหวิริยาภายใต้การห้อมล้อมให้กำลังใจจากม็อบเสื้อเขียวและคนหน้าคุ้น - ขาประจำ "วีระ สมความคิด"


24 มกราคม 2552 ครบรอบขวบปีพอดีสำหรับเหตุการณ์ยิงนายรักศักดิ์ คงตระกูล ลูกจ้างชั่วคราวเครือสหวิริยา เสียชีวิต ขณะม็อบคัดค้านโครงการโรงถลุงเหล็กนำมวลชนเข้าไปขัดขวางการดำเนินการปรับพื้นที่ตั้งโครงการ
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ จากการเปิดเผยของนางจินตนา แก้วขาวประธานกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติบ้านกรูดก็คือ อัยการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์สั่งฟ้องนายบำรุง สุดสวาท อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งแกนนำชาวบ้านเตรียมหาหลักทรัพย์ประกันตัวนายบำรุง ในชั้นศาล คาดว่า จะเป็นในวันที่ 30 มกราคม นี้ โดยนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะเดินทางมายื่นประกันตัวผู้ต้องหาด้วยตนเอง คดีนี้ทั้งนายไกรศักดิ์ และนายวีระ สมความคิด ออกหน้าช่วยเหลือผู้ต้องหาเต็มสูบ
ขณะที่ นายสุวรรณ ทองกลอย ประธานสภาทนายความจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะทนายความของฝ่ายผู้เสียหาย อธิบายว่า การสั่งฟ้องของอัยการเป็นไปตามกฎหมาย หลังจากที่ได้มีคำสั่งแนะนำคดี โดยให้ตำรวจสอบสวนเพิ่มเติมเนื่องจากปากคำของพยานระบุ น่าจะมีผู้ต้องหาเพิ่มเติม แต่ปรากฏว่า การทำงานของตำรวจไม่มีความคืบหน้า ทางอัยการจึงต้องสั่งฟ้องนายบำรุงเพียงคนเดียวไปก่อนเพื่อไม่ให้คดีขาดอายุความ ส่วนว่าภายหลังตำรวจสอบสวนเสร็จแล้วมีใครเข้าข่ายความผิดก็ค่อยฟ้องตามที่หลัง
เวลาหายไปเฉย 1 ปีเต็ม เพราะถึงที่สุดคือ อัยการจำเป็นต้องสั่งฟ้องนายบำรุงไปคนเดียวก่อน
ตำรวจจึงตกที่นั่งลำบาก โดยเฉพาะ "สารวัตรโต๊ะ" พ.ต.ท.จรูญศักดิ์ โต๊ะถม พนักงานสอบสวน (สบ 2) สภ.บางสะพาน ซึ่งรับผิดชอบคดี
ก่อนหน้านี้ พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร) ซึ่งได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ให้ดูแลใกล้ชิดปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ อ.บางสะพาน สั่งการตรงไปยัง "สารวัตรโต๊ะ" ให้ “ขันน็อต” ด่วนโดย "วรรคทอง" ของ พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ คือ “ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา” แต่ "สารวัตรโต๊ะ"ก็ทำงานได้เท่าที่เห็น




บรรยายภาพ : นางเขียด-นางผิว -น้องเม็ดฝ้ายและญาติผู้สูญเสียทวงความเป็นธรรม "ถ้าเป็นฝ่ายค้านตาย ป่านนี้มันเอาศฟแห่กันจนโลงผุนั่นแหละ"
นางเขียด คงตระกูล ภรรยาผู้เสียชีวิต บอกว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นางผิว มารดาของนายรักศักดิ์ ได้เดินทางไปสอบถามความคืบหน้าของคดีกับ "สารวัตรโต๊ะ" แต่คำตอบที่ หญิงชราผู้สูญเสียเสาหลักของครอบครัวคือความว่างเปล่า
"ตำรวจบอกว่า ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเพราะคดีนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน" นางเขียดอ้างถึงคำชี้แจงสำเร็จรูปของ "สารวัตรโต๊ะ"
เมื่อถามว่า 1 ปีแล้ว จะเคลื่อนไหวทวงถามความเป็นธรรมอย่างไร นางเขียดบอกโดยซื่อว่า "หนูไม่มีเงินวิ่งเต้น"
24 มกราคม 2552 จึงเป็นเพียงการบุญเลี้ยงพระแบบเรียบง่าย
ความฝันของรักศักดิ์ก่อนเสียชีวิต คือ อยากมีเรือสักลำ ออกทะเลหาปลา ภาพชาวบ้านเสร็จงานประจำในโรงงาน แล้วออกเรือหาปลาในยามว่างนั้นงดงามยิ่ง แต่ภาพฝันถูกมัจจุราชคร่าไป นางเขียดบอกว่า ชีวิตทุกวันนี้ต้องรับผิดชอบคนเดียว โดยเข้าไปทำงานเป็นแม่บ้านบริษัทเครือสหวิริยา ซึ่งช่วยเหลือทุนสนับสนุนการศึกษาของ "น้องเม็ดฝ้าย" ลูกสาวผู้สูญเสียพ่อ
สัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน นายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ อ.บางสะพาน เพื่อรับฟังปัญหาความขัดแย้งอันเนื่องจากโครงการโรงถลุงเหล็ก แล้วออกมาให้ข่าวสื่อมวลชนว่า สถานการณ์ไม่ได้รุนแรงตามที่เป็นข่าว
เข้าใจว่า กระทรวงมหาดไทยพยายามจะเข้าไปแก้ปัญหา โดยแรกเริ่มต้องพยายามสร้างบรรยากาศที่ดีเพื่อเปิดเวทีพูดคุย แต่หลังจากนั้นแกนนำม็อบคัดค้านก็ออกมาโต้ทันควันว่า "บิดเบือน"
มองกันแบบง่ายๆก็คือ ม็อบค้านต้องยันว่ามีความขัดแย้งรุนแรง ไม่เช่นนั้น จะหาว่า ชุมชนให้การยอมรับโครงการโรงถลุงเหล็ก
วันนี้เจ้าของโครงการโรงถลุงเหล็ก บอกว่า ขอหยุดโครงการเพื่อรอความชัดเจนของรัฐบาล โดย เหตุผลหลักไม่ได้อยู่ที่มีการคัดค้านเนื่องจากพบว่า ชาวบ้านในพื้นที่ 95 เปอร์เซ็นต์เห็นด้วย แต่หยุดเพราะการเดินงานหลายอย่างต้องมี "ธง” ชัดเจนจากส่วนกลาง กลไกราชการถึงจะขยับ
แม้กระทั่งคดียิงรักศักดิ์ก็เถอะ!! ถ้า “ธง” ชัด เชื่อว่า “สารวัตรโต๊ะ” ก็คงเดินหน้า เพียงแต่บทเรียนของตำรวจไทย มันสอนว่า ทำงานตามทิศทางลมปลอดภัยกว่ากันเยอะ

คัดลอกจาก นสพ.บางกอกทูเดย์

ไม่มีความคิดเห็น: